วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สรุปตัวอย่างการสอน




สรุปตัวอย่างการสอน 


🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻

ปฐมวัย การสร้างวิศวกรน้อยที่เยอรมนี ตอน 2


ในเยอร์มนี บริษัทวิศวกรรมรวมกลุ่มกันเพื่อพยายามสร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นที่รู้สึกเบื่อหน่ายในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สื่อการสอน ของเล่นสำหรับปฐมวัย พัฒนาทักษะการประดิษฐ์ ทักษะการออกแบบ การต่อวงจรไฟฟ้า อนุบาล การแนะแนวอาชีพ เป้าหมายการศึกษา การศึกษาเพื่อสร้างอาชีพ เรียนรู้ผ่านการเล่น จิตวิทยา พัฒนาการเด็ก กระแสไฟฟ้า การผสมสี คลื่นเสียง การออกแบบหลักสูตร พัฒนาแผนการสอน การศึกษาในเยอรมัน ความอยากรู้อยากเห็น การสังเกต การตั้งคำถาม ทักษะการคิดวิเคราะห์ เรียนรู้ผ่านสัมผัสทั้งห้า ปฏิกิริยาเคมี บทบาทครูอนุบาล"

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สรุปวิจัย

 


    สรุปวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่2

    ชื่อวิจัย  การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

    ปริญญานิพนธ์  ยุพิน แหวนมุข  มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ปริญญาครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน
    ปีที่พิมพ์ 2556


    ความมุ่งหมาย

    1.พัฒนาชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
    2.เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์ สำหรีับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
    3.เพื่อเปรียบเทียบคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก่อนและหลังการทดลองใช้ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาสาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

    กลุ่มตัวที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโคกลอย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 19 คน โดยสุ่มอย่างง่าย

    เครื่องมือ

    1.ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
    2.แผนการจัดประสบการณ์ โดยใช้ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
    3.แบบทดสอบรูปภาพ 1 ชุด จำนวน 10 ข้อ
    4.แบบสังเกตและแบบบันทึกพฤติกรรม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 

    สถิติที่ใช้วิเคาระห์ข้อมูล 
    ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Dependent samples t-test และการหาค่าดัชนีประสิทธิผล
    สมมุติฐาน

    นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง

      วิธีการดำเนิน

      1.ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
            1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 กลุ่มม่วงเจริญ ได้แก่ โรงเรียนบ้านโคกสมบูรณ์จำนวน 12 คน โรงเรียนบ้านปลื้มพัฒนาจำนวน 48 คน โรงเรียนบ้านโคกลอยจำนวน 19 คน ปีการศึกษา 2553 รวมจำนวน 79 คน

            1.2 กลุ่มตัวที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโคกลอย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 19 คน

      สรุปผลวิจัย

      1.ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 85.59/82.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
      2.ดัชนีประสิทธิผลชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6559 แสดงว่านีกเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้นร้อยละ 65
      3.ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลีงการทดลองใช้ชุดเตรียมความพร้อมทางวิทยาศาสตร์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สรุปบทความ





สอนลูกให้เก่งวิทย์ด้วยการออกไปศึกษาจากธรรมชาติ

การพาลูกไปเรียนรู้ธรรมชาติ ของสัตว์ต่างๆ ตามสวนสัตว์  สวนสาธารณะ และไปเที่ยวตามพิพิธภัณฑ์ ในวัยเด็กเล็ก   เมื่อลูกมีอายุพอสมควร คือ ประมาณ 5-6 ปี ครอบครัวเรา ก็เริ่มพาลูกไป เรียนรู้ธรรมชาติ ที่แท้จริง ในป่าต่างๆ  ให้ลูกได้หัดเดินป่าง่ายๆ ได้เรียนรู้ธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ ในป่าธรรมชาติ   ทั้งในและต่างประเทศ   เด็กๆได้เรียนรู้ สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ  พืชพรรณ  และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ที่แตกต่างกัน  ทำให้เข้าใจ กลไกของระบบนิเวศน์  ว่า ทั้งสัตว์ พืช และมนุษย์ รวมทั้งธรรมชาติต่างๆ มีความสัมพันธ์ต่อกัน  ต้องพึ่งพาอาศัยกัน  และ ต้องเกื้อกูลต่อกัน     รวมทั้งเด็กๆได้ฝึกการป้องกันตัวเอง ในยามที่ต้องเดินทางในป่า  ต้องป้องกันยุง และแมลงมีพิษ  การเตรียมตัวในการเดินทาง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องนำไป ในเวลาที่ต้องเดินทางในป่า  

  

การทดลองน้ำเปลี่ยนสี

 



การทดลองน้ำเปลี่ยนสี



ขั้นตอน
                       1.เตรียมอุปกรณ์ใส่กลล่อง ให้เด็กทายว่ามีอะไรอยู่ในกล่อง
                       2.ครูนำอุปกรณ์มาให้เด็กดู 1.ดอกอัญชัน 2.ใบเตย 3.น้ำมะนาว 4.แก้ว 5.หลอด 6.ถุงร้อน
                       3.ครูนำดอกอัญชันและใบเตยใส่ถุงแกง เพื่อให้เด็กขยี้แล้วสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น
                       4.ครูนำน้ำดอกอัญชันและใบเตยที่คั่นแล้วมา ใส่แก้ว
                       5.ครูถามเด็กๆว่าถ้าครูนำน้ำมะนาวใส่ลงไปในแก้วของน้ำอัญชันและใบเตย เด็กคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ถามต่อว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไร
                       6.ครูให้เด็กช่วยนำน้ำมะนาวหยดลงในแก้วน้ำอัญชัน10หยด แล้วให้เด็กสังเกต
                       7.ครูให้เด็กช่วยนำน้ำมะนาวหยดลงในแก้วน้ำใบเตย10หบด แล้วให้เด็กสังเกต
                       8.ครูถามเด็กว่า เด็กๆคิดว่าเพราะอะไรถึงน้ำอัญชัญที่หยดมะนาวลงไปจะเปลี่ยนสี
                       9.เมื่อเด็กตอย ครูถึงอธิบาย
💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢

เทคนิคการสอน


เทคนิคการสอน

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคสำหรับคุณครูที่ต้องรู้ เพื่อที่จะได้จัดการเรียนการสอนให้กับเด็กได้อย่างเหมาะสม

          

           👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦👦

โครงการวิทยาศาสตร์(การทดลอง) ผักเปลียนสี

 

วันศุกร์ ที่ 13  พฤศจิกายน 2563 เวลา 08:30-12.30 น.

เนื้อหา
                                                  โครงการวิทยาศาสตร์(การทดลอง)


การทดลองผักเปลี่ยนสี 
        1.ครูเตรียมอุปกรณ์ใส่ตะกร้า  แก้ว  สีผสมอาหาร  หัวไช้เท้า  ขึ้นฉ่าย  กวางตุ้ง
        2.ครูหยิบอุปกรณ์ออกมาทีละชิ้นพร้อมแนะนำชื่อ
        3.ครูถามเด็กว่ามีใครอยากช่วยครูผสมสีผสมอาหารบ้าง
        4.ครูหยิบแก้วออกมา 4 ใบพร้อมให้เด็กนับจากนั้นให้เด็กหยิบเลขมาติดกำกับกับแก้วแต่ละใบ
        5.ครูแบ่งน้ำสีผสมอาหารใส่แก้วในปริมาณที่เท่ากันทั้ง 4 แก้ว
        6.ครูถามเด็กว่าถ้านำผักใส่ลงไปในแก้วจะเกิดอะไรขึ้น
        7.ครูให้เด็กช่วยนำผักมาใส่แก้ว 
     แก้วที่ 1 ผักกาดขาว                                                          
     แก้วที่ หัวไชเท้า 
     แก้วที่ ขึ้นฉ่าย                                                                                  
     แก้วที่ กวางตุ้ง
        8.ให้เด็กสังเกตผักในแก้วแต่ละชนิดแล้วครูถามเด็กว่าเกิดอะไรขึ้น
        9.พอผักมีการเปลี่ยนแปลงครูนำผักที่ไม่ได้ใส่แก้วนำมาให้เด็กได้เปรียบเทียบความแตกต่าง
        10.ครูถามเด็กว่าทำไมถึงเปลี่ยนสีและทำไมผักกวางตุ้งถึงไม่เปลี่ยนสี
        11.ครูถามเด็กว่าเด็กๆได้เรียนรู้อะไรบ้าง
        12.ครูสรุปว่าผักแต่ละชนิดมีการดูดซึมน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงเพราะน้ำเป็นอาหารของผักครูก็ยกตัวอย่างว่าทุกอย่างบนโลกนี้มันต้องการน้ำเด็กๆก็ต้องกินน้ำเพื่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของร่างกาย


คำศัพท์
          1.The growth    การเจริญเติบโต
          2.Lettuce    ผักกาด
          3.glass    แก้ว
          4.Life    ชีวิต
          5.Radish    หัวไช้เท้า

ประเมิน

                 ประเมินตนเอง  ตั้งใจฟังที่อาจารย์หมอยหมายงาน

                 ประเมินเพื่อน   ตั้งใจฟังและตอบคำถามอาจารย์เมื่ออาจารย์ถาม

                 ประเมินอาจารย์  พูดอธิบายงานอย่างละเอียด

บันทึกครั้งที่10

 

บันทึกครั้งที่10

วันศุกร์ ที่ 4  พฤศจิกายน 2563 เวลา 08:30-12.30 น.


เนื้อหา

สื่อเพื่อพัฒนาลูกรัก

กิจกรรมการทดลอง เรื่อง ลมกับพระอาทิตย์

 



 

 

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว วันที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง พระอาทิตย์ออกมาส่องแสงเจิดจ้าอย่างที่เคยเป็น เจ้าลมเพื่อนเก่าได้ผ่านมาเห็นเลยหยุดแวะทักทาย "เป็นอย่างไรบ้างพระอาทิตย์มิตรแห่งเรา ไม่เจอกันเสียนานสบายดีหรือไม่" เจ้าลมตะโกนทักทายสหายเก่าสุดเสียง พระอาทิตย์ก็ตอบรับอย่างดีใจด้วยไม่เจอลมตนนี้มาเนิ่นนานเหลือเกิน 



 

ขณะนั้นเองก็มีชายหนุ่มนักเดินทางสวมเสื้อคลุมกำลังเดินเล่นเตร็ดเตร่อยู่ เจ้าลมเห็นอย่างนั้นก็นึกสนุก พูดท้าทายบางสิ่งออกมา "พระอาทิตย์สหายรัก เรามาแข่งขันวัดความแข็งแกร่งกันสักหน่อยไหม" ลมกล่าวชักชวน "ได้สิ ๆ แข่งอะไรดีเล่า" พระอาทิตย์ตอบกลับแบบไม่คิดอะไร ด้านเจ้าลมก็ชี้ลงไปยังหนุ่มนักเดินทางคนนั้นพร้อมกล่าว "ง่ายมากเลย ทำยังไงก็ได้ให้เสื้อคลุมของพ่อหนุ่มคนนั้นหลุดออกมาจากตัว ใครทำสำเร็จถือเป็นผู้ชนะและแข็งแกร่งที่สุด" พระอาทิตย์พยักหน้าตอบรับ ลมเห็นว่าสหายรักรับคำท้าจึงโผไปหาหนุ่มนักเดินทาง พลางตะโกนไล่หลัง "ฉันขอเริ่มก่อนเลยนะ"




           เจ้าลมใช้กำลังทั้งหมดรวบรวมมาเป็นพายุขนาดย่อม หวังทำให้เสื้อคลุมตัวนั้นปลิดปลิว แต่หนุ่มนักเดินทางก็ไม่หวั่นไหวแถมยังจับเสื้อเอามาคลุมไว้แน่น ลมเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งใช้แรงบีบบังคับมากขึ้นไปอีก จนหนุ่มคนนั้นแทบไม่มีแรงก้าวเดิน "ทำไมลมในวันนี้ถึงได้มีความโหดร้ายกับฉันนักนะ" หนุ่มนักเดินทางบ่นอย่างท้อใจแล้วดึงเสื้อคลุมตัวแน่นกว่าเดิม เจ้าลมจึงรวบรวมพลังอีกครั้งพร้อมกับเป่าไปยังหนุ่มคนนั้น ถึงขั้นเดินเซเกือบล้ม     


 



 

         "พอเถิดหนาลมเอ๋ย เราขอลองแข่งบ้างเถิด" พระอาทิตย์กล่าวกับลม ด้วยแรงที่ใกล้จะหมดไป ลมจึงยอมให้พระอาทิตย์มาแข่งต่อ คราวนี้อากาศแจ่มใสไร้พายุใด ๆ มาก่อกวน หนุ่มนักเดินทางเลยเดินต่อจนใกล้ถึงแนวป่า ด้านพระอาทิตย์เองก็เริ่มแผนการอย่างแยบยล เขาค่อย ๆ เปล่งแสงให้ร้อนทีละนิด ทีละนิด จนหนุ่มคนนั้นเริ่มรู้สึกอุ่นขึ้น อุ่นขึ้น จากความอบอุ่นกลายเป็นความร้อน พอเจอแนวต้นไม้เงียบสงบ หนุ่มนักเดินทางเลยเลือกที่จะเข้าไปนั่งพัก พร้อมถอดเสื้อคลุมตัวที่ลมท้าพระอาทิตย์วางไว้ข้างกายอย่างสบายใจ  "ความอ่อนโยนของเธอเหนือกว่าพละกำลังที่ฉันมีจริง ๆ" ลมชื่นชมในสิ่งที่พระอาทิตย์ทำลงไป "ไว้มีโอกาสคราใด เราจะแวะมาหาใหม่นะพระอาทิตย์เพื่อนรัก" ทั้งคู่จึงยิ้มร่ำลากันอย่างมีความสุข

 

คุยกับลูก

ถ้าหนูเลือกได้หนูจะเป็นลมหรือพระอาทิตย์ ถ้าหนูเป็นลมหรือพระอาทิตย์หนูจะทำยังไงกับเด็กคนนั้นเพราะอะไร

บทสรุป

เห็นไหมจ๊ะ การใช้กำลังและความรุนแรงแข่งขันกันไม่ทำให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอไปบางครั้งอาจจะต้องสูญเสียสิ่งเหล่านั้นเพราะการกระทำอันก้าวร้าวของเราก็เป็นได้ แต่ถ้าเปลี่ยนความรุนแรงมาเป็นความอ่อนโยนและมีเมตตา ไม่ว่าจะทำอะไรย่อมได้ผลสำเร็จตอบแทนอย่างที่หวังแน่นอน 

เล่นกับลูก

              ชวนลูกทำหมูแดดเดียว

        มีขั้นตอนให้ผู้ปกครอง ดังนี้

1.       เตรียมอุปกรณ์สำหรับทำหมูแดดเดียว ( มีด,เขียง,ภาชนะสำหรับคลุกหมู,กระด้งสำหรับตากหมู)

2.       เนื้อหมู

3.       เกลือ

 วิธีการทำ


1.นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ (ขั้นตอนนี้ผู้ปกครองควรทำเอง)



2.นำเนื้อหมูที่หั่นแล้วมาคลุกกับเกลือ(หมู500กรัม/เกลือ2ช้อนชา)แล้วหมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง



3.นำหมูมาเรียงในกระด้งแล้วนำไปตากเป็นเวลาหนึ่งวัน



วิทยาศาสตร์ (science)

-          การระเหยของน้ำในเนื้อหมู

-          ผลของการนำเนื้อหมูไปตากแดดกลายเป็นหมูแดดเดียวที่มีเนื้อสัมผัสแห้ง

วิศวกรรมศาสตร์ (engineering)

-          การวางแผนการทำหมูแดดเดียว

คณิตศาสตร์ (mathematics)

-          น้ำหนักของเนื้อหมู

-          ปริมาณของเกลือที่ใส่

-          ระยะเวลาในการหมักหมูและระยะเวลาในการตากหมู

มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาดังนี้

1. ระบุปัญหาและทำความเข้าใจ

2. รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง

3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา

4. วางแผน และดำเนินการแก้ปัญหากำหนดขั้นตอนในการสร้างชิ้นงาน แล้วลงมือสร้างชิ้นงาน

5. ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขปัญหาหรือชิ้นงานให้มีประสิทธิภาพ

6. นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา

ได้ปากกาสีด้วย


คำศัพท์
          1.science วิทยาศาสตร์
          2.sun    พระอาทิตย์
          3.Learning การเรียนรู้
          4.Problem solving    การแก้ปัญหา
          5.tale    นิทาน

ประเมิน

                 ประเมินตนเอง  ตั้งใจฟังที่อาจารย์หมอยหมายงาน

                 ประเมินเพื่อน   ตั้งใจฟังและตอบคำถามอาจารย์เมื่ออาจารย์ถาม

                 ประเมินอาจารย์  พูดอธิบายงานอย่างละเอียด

สรุปตัวอย่างการสอน

สรุปตัวอย่างการสอน  อ้างอิง https://www.youtube.com/watch?v=zM6WppCmCHw&feature=youtu.be&fbclid=IwAR1apS1qpEONOkyVyzDJdtNcOD_CPf7neQ...